เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ เป็นนักเตะดาวรุ่งชื่อดังที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเตะเนื้อหอมแห่งยุคมากที่สุดคนหนึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ โดย เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์
เป็นทายาทผู้สืบต่อเจตนารมณ์การเป็นสุดยอดนักฟุตบอลอาชีพมาจาก อัลฟ์ ฮิวโก้ ฮาแลนด์ นักเตะชื่อดังในตำนานจากประเทศนอร์เวย์ ที่เคยมาค้าแข้งในตำแหน่งกองหลังของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ที่ตอนนี้แม้ว่าเจ้าตัวจะวางมือจากการเป็นนักเตะไปแล้วแต่ก็ได้ส่งลูกชายมาสืบสานตำนานนักเตะต่อไป
ฮาแลนด์ กับข่าวการย้ายทีมซัมเมอร์หน้า
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2017 เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ที่เพิ่งเริ่มต้นเส้นทางนักเตะได้ไม่นานก็ได้มีโอกาสย้ายไปอยู่กับทีมโมลด์ ซึ่งตอนนั้นโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ นั่งคุมทีมอยู่ทำให้ทั้งสองได้มีโอกาสร่วมงานกัน
ก่อนที่โซลชาจะถูกผีแดงไปอุ้มมาคุมทีมในช่วงปี 2019 จากนั้นเรดบูลซัลซ์บวร์กก็ซื้อตัวเขามาด้วยราคาค่าตัวที่ประมาณ 7 ล้านปอนด์ ก่อนที่ในช่วงต้นปี 2020 ก็มีข่าวว่าฮาแลนด์ต้องการย้ายทีมอีกครั้งเพื่อความเจริญก้าวหน้าในอาชีพนักเตะ
ซึ่งตอนแรกคนก็มองว่าทีมที่มีโอกาสที่สุดนั่นก็คือทีมผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหตุผลก็ไม่ยากเลยนั่นเพราะที่นั่นมี โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ อดีตอาจารย์เก่าของเขานั่งคุมทีมอยู่นั่นเอง
แต่แล้วนักเตะก็หักปากกาเซียนด้วยกันย้ายไปยังทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกาเยอรมันด้วยราคาค่าตัวที่ประมาณ 18 ล้านปอนด์ และกลายมาเป็นนักเตะดาวยิงคนสำคัญของทีมเสือเหลืองนับแต่นั้นมา
โดยในฤดูกาล 2020-2021 ฮาแลนด์ยิงประตูให้ทีมรวมทุกรายการไปแล้วมากถึง 23 ประตูด้วยกัน (ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามจำนวนการแข่งขัน) ในขณะที่ก็มีข่าวทีมฟุตบอลชื่อดังหลายทีมจ้องจะดึงตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ 2021 นี้
แม้ว่าฝ่ายบริหารของทีมเสือเหลืองจะออกมาแก้ข่าวปากแทบฉีกทุกวันว่าตัวนักเตะจะอยู่กับทีมของพวกเขาต่อไปในระยะยาวก็ตาม โดยในปัจจุบันทีมฟุตบอลที่ตกเป็นข่าวกับนักเตะดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ก็มีทั้งเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี
และตบท้ายด้วยราชันชุดขาว เรอัลมาดริด แต่ตามข่าวที่สื่อวิเคราะห์การทีมที่มีโอกาสคว้านักเตะคนนี้ไปมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้หากว่าเขาอยากจะย้ายทีมจริงๆนั่นก็คือทีมเรือใบสีฟ้า เพราะเขามีความสัมพันธ์อันดีกับทีมฟุตบอลทีมนี้ในฐานะทีมเก่าของพ่อเขานั่นเอง และทีมนี้ก็ยังมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงพอที่จะซื้อตัวเขาได้
ติดตามติดตามข่าวฟุตบอลต่างประเทศ และข่าวพรีเมียร์ลีก ได้ที่นี่
