โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นบุคคลที่แฟนบอลโดยเฉพาะแฟนๆวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในฐานะอดีตนักเตะชาวโปรตุเกส ที่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลฝีมือดี โดยโชเซ่ มูรินโญ่ เคยมีผลงานการพาสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี
คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว 3 สมัยด้วยกัน เคยพางูใหญ่อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์กัลโช่เซเรียอาลีกมาแล้ว 2 สมัย และพาผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพ หรือคาราบาวคัพ รวมทั้งยูโรป้าลีกในฤดูกาล 2016-2017 มาแล้ว
โชเซ่ มูรินโญ่ กับการเสริมทัพของไก่เดือยทอง

หากแต่เขาว่าผีแดงทำผลงานตกลงเป็นอย่างมากในฤดูกาล 2018-2019 ทำให้เขาถูกปลดไปและผีแดงก็ให้โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ มาเป็นผู้จัดการทีมชาติ จากนั้นโชเซ่ มูรินโญ่ก็ต้องนั่งแล้วเดินเตะฝุ่นอยู่นานจนในช่วงพฤศจิกายน 2019 ถึงได้เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมไก่เดือยทอง สเปอร์ส ในที่สุด
แม้ว่าหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2019-2020โชเซ่ มูรินโญ่จะสามารถประคับประคองทีมไก่เดือยทองจนเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศรายการแข่งขันคาราบาวคัพได้ในที่สุด แต่เมื่อไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ จึงทำให้ทุกคนมองว่าผลงานของเขายังไม่ถึงขั้น แถมโชเซ่ มูรินโญ่ พาไก่เดือยทองจบฤดูกาลดังกล่าวได้เพียงแค่ระดับ 6 เท่านั้น
พอมาถึงฤดูกาล 2020-2021 ผลงานก็ตกลงไปอีก โดยล่าสุดอยุ่แค่เพียงอันดับ 8 ของตารางคะแนน จึงทำให้เขากลายมาเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆที่คนวงการฟุตบอลคาดว่าจะถูกปลดคนต่อไปในพรีเมียร์ลีกสำหรับตำแหน่งผู้เป็นผู้จัดการทีม

อย่างไรก็ตามล่าสุดโชเซ่ มูรินโญ่ได้ออกมาเปิดใจสรุปได้ว่า
เขาได้กล่าวถึงสุดยอดผู้จัดการทีม 2 คนนั่นก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ เจอร์เกน คลอปป์ ของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่แฟนบอลรู้จักกันดีว่า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสองคนนั้นเป็นผู้จัดการทีมที่เก่งเป็นอย่างมาก
และเขาก็โชคดีที่ได้อยู่กับทีมที่อย่างจะได้แชมป์ในทุกรายการ รวมทั้งทีมดังกล่าวมีเงินทุนมากพอที่จะให้พวกเขาเสริมทัพได้ การทำทีมมันก็เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ที่จำเป็นจะต้องหานักเตะฝีมือดีจากหลายๆที่มาต่อรวมกันกลายเป็นทีมใหญ่
และก็โชคดีที่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้จัดการทีมทั้ง 2 โดยเฉพาะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เห็นควรว่าทีมจะต้องทุ่มเงินเสริมทัพนักเตะเป็นจำนวนมาก เรือใบสีฟ้า ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินเสริมทัพของเขาเช่นเดียวกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่สามารถใช้เงินจากลิเวอร์พูลทุ่มซื้อเฟอร์กิล ฟานไดค์ มาร่วมทัพได้ ทำให้เป็นข้อได้เปรียบของทีมใหญ่

และแน่นอนว่าตนเองก็ทราบแล้วก่อนที่จะมาคุมไก่เดือยทองว่า ทีมของเรานั้นไม่สามารถที่จะทุ่มเงินซื้อนักเตะได้มากกว่าทีมอื่น ซึ่งตนจะไม่พยายามเปรียบเทียบสถานการณ์ของตนเองกับทีมอื่นๆ เพราะทีมไก่เดือยทองนั้น บอกอย่างตรงไปตรงมากับเขาแล้วนั่นเอก่อนเข้ามาคุมทีม
อีกทั้ง ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาทีมก็พยายามพัฒนานักเตะในทีมให้ดีขึ้นแล้ว ซึ่งตนก็จะไม่ขอกล่าวถึงในเรื่องนั้นแต่จะพยายามทำงานของตนให้ดีที่สุดจากนี้และตลอดไปก็เท่านั้นเอง
ติดตามติดตามข่าวฟุตบอลต่างประเทศ และข่าวพรีเมียร์ลีก ได้ที่นี่