แฟร้งค์ แลมพาร์ด กลายเป็นผู้จัดการทีมในเวทีพรีเมียร์ลีกรายล่าสุดที่โดนปลดออกจากตำแหน่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มกราคม หลังจากที่ผ่านมาตกเป็นข่าวว่าเชลซีกาหัวแลมพาร์ดเอาไว้แต่ยังให้โอกาสสุดท้ายในเกมลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีในอีก 3 เกมข้างหน้านี้ แต่สุดท้ายแลมพาร์ดก็เข้าตำราปลาหมอตายเพราะปากโดนเชือดนิ่ม ๆ ไปในที่สุด
แฟร้งค์ แลมพาร์ดสร้างผลงานในเส้นทางการเป็นกุนซือจากการนำดาร์บี้

เคาน์ตี้ทำผลงานได้สุดแจ่มในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ ทำให้แลมพาร์ดได้รับโอกาสเข้ามากุมบังเหียนเชลซี และฤดูกาลแรกก็ผ่านพ้นไปได้เป็นอย่างดีทั้งที่ไม่มีการเสริมทัพแต่อย่างใด โดยแลมพาร์ดพาเชลซีเข้าป้ายที่ 4 ในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีพร้อมตีตั๋วได้ลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในซีซั่นนี้

เชลซีไม่มีโอกาสได้เสริมทัพในฤดูกาลที่แล้วเนื่องจากติดโทษแบนจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เลือกแลมพาร์ดเข้ามานั่งเก้าอี้นายใหญ่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เนื่องจากการโดนแบนช้อปนักเตะส่งผลให้กุนซือขั้นเทพต่างเมินหน้าที่จะเข้ามาคุมเชลซีนั่นเอง
แม้ว่าฤดูกาลนี้จะให้แลมพาร์ดได้ใช้จ่ายกวาดแข้งชั้นดีเข้ามาเสริมทัพให้เชลซีไปด้วยยอดรวมทะลุ 200 ล้านปอนด์ แต่สุดท้ายแลมพาร์ดกลับไม่สามารถนำเชลซีทำผลงานให้โดดเด่นกว่าเดิมได้ในซีซั่นนี้ และหนึ่งในนั้นที่แลมพาร์ดพลาดในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานั่นก็คือไม่สามารถคว้าตัวแข้งคนสำคัญของเวสต์แฮม ยูไนเต็ดอย่างเดแคลน ไรซ์มาร่วมทัพได้นั่นเอง ซึ่งดาวเตะดาวโรจน์วัย 22 ปีของขุนค้อนเป็นหนึ่งในแข้งอเนกประสงค์เล่นได้ทั้งในแนวรับและแผงกลางอีกด้วย

นอกจากนี้แลมพาร์ดยังโดนคลื่นใต้น้ำภายในทีมเชลซีซัดจนเซไปเซมาจากการที่แลมพาร์ดไม่รู้จักที่จะเข้าหาแข้งขาใหญ่ในทัพสิงโตน้ำเงินคราม แถมยังมักให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงลูกทีมของตนอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งตัวความหวังที่ซื้อเข้ามาอย่างฮาคิม ซิเย็ค, ติโม แวร์เนอร์ และไค ฮาแวทซ์กลับทำผลงานไม่ได้ปังปุริเย สำหรับฟางเส้นสุดท้ายของแลมพาร์ดนั้นก็น่าจะมาจากการที่เกาเหลากับหนึ่งในซีอีโอผู้ทรงอิทธิพลของเชลซีอย่างมาเรียน่า กรานอฟสกาย่า รวมทั้งแลมพาร์ดยังฝากตราบาปเอาไว้จนเชลซีรับไม่ได้จากการพ่ายไปถึง 5 จาก 8 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการพ่ายอาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเลสเตอร์ ซิตี้
ติดตามติดตามข่าวฟุตบอลต่างประเทศ และข่าวพรีเมียร์ลีก ได้ที่นี่