ทัพ อินทรีเหล็ก ทีมชาติของประเทศเยอรมัน ปิดสามเกมฟีฟ่า เดย์ คัดบอลโลก 2022 โซนทางด้านยุโรปอย่างสวยหรูดูแพง หลังเก็บชัยส่งท้ายด้วยการบุกถล่มไอซ์แลนด์ 4-0 สะท้อนสไตล์เกมรุกสุดดุเหมือนสมัยคุมบาเยิร์น มิวนิค 2019-2021
ฟลิกก์คืนความโหดให้ อินทรีเหล็ก แม้เริ่มต้นแบบเครื่องร้อนช้า

ความล้มเหลวของทีมชาติเยอรมันในฟุตบอลโลก 2018 ตามด้วยยูโร 2020 เมื่อเดือนก่อน เป็นการปิดฉากการคุมทีมของโยอาคิม เลิฟที่ไม่สวยเลย และก่อนการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์สุดท้ายของอดีตนายใหญ่อินทรีเหล็ก ทางสมาพันธ์ฟุตบอลของเยอรมันหรือเดเอฟเบก็จิ้มชื่อโค้ชใหญ่คนใหม่ ฮานซี่ ฟลิกก์ ที่จะเข้ามารับไม้ต่อจากคนที่เขาเคยเป็นผู้ช่วยให้มาก่อน
ผลงานของฟลิกก์ในการพาบาเยิร์น มิวนิคที่ผลงานไม่สู้ดีตอนต้นฤดูกาล 2019/20 จนนิโก้ โควัชถูกเขี่ยออกจากตำแหน่ง กลายเป็นผลงานไฮไลต์ของฟลิกก์ เมื่อเขาทำให้ทัพเสือใต้คืนชีพ ไล่คว้าถ้วยที่เป็นแชมป์และถาดแชมป์ทุกรายการในรอบปีนั้น บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, คลับ เวิล์ด คัพ, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ สร้างไฮไลต์สำคัญถึงเกมบุกอันน่าสยดสยองอย่างการถล่มฮอฟเฟ่นไฮม์ 6-0 ในบุนเดสลีกา และสกอร์เดียวกันในเกมกับเร้ดสตาร์ เบลเกรด และที่ต้องถูกพูดถึงไปตลอดคือเกมที่ถล่มบาร์เซโลน่าถึง 8-2

รวมถึงผลงานในปีหลังสุดก่อนออกมารับงานนายใหญ่ทัพอินทรีเหล็ก ที่เก็บสองแชมป์ในประเทศทั้งบุนเดสลีกาและฟุตบอลถ้วย ก็มีเกมที่โชว์ความโหดอย่างนัดชนะชาลเก้ 8-0
วันแรกของการแถลงข่าวรับตำแหน่ง ฮานซี่ ฟลิกก์เคยประกาศอย่างแข็งขันว่าเขาจะเอาเกมรุกที่เคยขึ้นชื่อของเยอรมันกลับมาสู่ทีม หรือถ้ามองในอีกมุมหนึ่งก็หมายความว่า ฟลิกก์ประกาศที่จะเอาวิธีการเล่นแบบที่เขาใช้กับบาเยิร์น มาทำกับทีมชาติประเทศเยอรมันด้วยนั่นเองและสำหรับ บาคาร่า SA ที่เล่ยง่ายไม่ยุ่งยาก เครดิตที่ให้กันแบบฟรี ๆ คุ้มค่ากับการที่จะลงเล่น
เกมนัดแรกอย่างเป็นทางการของฟลิกก์กลับโดนโจมตีอย่างหนัก เพราะผลสกอร์ที่ออกมาชนะลิชเท่นสไตน์แค่ 2-0 จากประตูของติโม แวร์เนอร์ กับลีรอย ซาเน่ดูจะไม่ถูกอกถูกใจแฟนบอล และไม่สมราคาคุยของฟลิกก์ ถึงอย่างนั้นเกมรุกที่สร้างโอกาสได้มากมาย ก็ดูจะเป็นทรงเกมแบบที่ฟลิกก์อยากให้ทัพอินทรีเหล็ก เป็นเกมนัดที่สองของทีมชาติเยอรมันในช่วงฟีฟ่า เดย์

และเป็นเกมที่สองของฟลิกก์จบด้วยสกอร์ 6-0 จากการดาหน้ายิงของผู้เล่นแนวรุก กรานาบี้เหมาสอง แวร์เนอร์ที่ยิงต่อเนื่อง มาร์โก้ รอยซ์ ตัวเก๋ากับโจนาซ ฮอฟมันน์ที่เบิกประตูแรกในนามทีมชาติได้ รวมไปถึงการแจ้งเกิดอย่างเพอร์เฟ็คของคาริม อเดเยมี่ เจ้าหนูวัย 19 ปีที่ลงมาเป็นสำรองแล้วมีชื่อทำประตูทันที
เมื่อมาถึงยังเกมที่ 3 ในการไปเยือนไอซ์แลนด์ที่เรย่าวิช กรานาบี้ แวร์เนอร์และซาเน่ ยังแสดงให้เห็นถึงพลังงานเกมรุกที่กลับมาสู่การเป็นจุดแข็งของทีมอินทรีเหล็ก ยุคใหม่ บวกกับการทำประตูของแนวรับอย่างอันโตนิโอ รูดิเกอร์อีกราย เป็นสกอร์ 4-0 ที่แฟนบอลกลับลำมายกย่อง แต่ถึงอย่างนั้นฟลิกก์ก็ยังบอกว่ามีงานต้องทำอีกมาก
“เรามีเวลาฝึกซ้อมกันน้อยไป เราแค่เดินหน้าเพิ่มอีกก้าว แต่ยังไม่ใช่เราแบบ 100%” ฟลิกก์กล่าวถึงทีมอินทรีเหล็ก ของเขา แม้จะมีฟอร์มที่กลับมาน่ากลัวแล้ว แต่ดูเหมือนรูปแบบการเล่นที่มองไว้ของนายใหญ่คนใหม่จะยังอยู่อีกไกล.
สำหรับ เว็บข่าวของคอบอล ที่ให้ทั้งความสนุกและสิ่งบันเทิงต่าง ๆ มากมาย