อย่างที่แฟนบอลวงจรวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยเฉพาะผู้ติดตามทีม สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทราบกันอยู่แล้วว่า ในช่วงครึ่งฤดูกาล 2020-2021 ที่ผ่านมา ทีมสิงโตน้ำเงินครามค่อนข้างจะทำผลงานไม่ค่อยจะเข้าตาฝ่ายบริหารของทีมสักเท่าไหร่
จนสุดท้ายสิงโตน้ำเงินครามก็ทำการสั่งปลด แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมคนเก่า และแต่งตั้งให้ โธมัส ทูเคิ่ล อดีตผู้จัดการทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง เข้ามาคุมทีมแทนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง
สิงโตน้ำเงินคราม กับผลงานที่ผ่านมา

ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็คงต้องขอบอกเลยว่า การตัดสินใจของทีมสิงโตน้ำเงินครามที่ทำการปลดผู้จัดการทีมคนเก่าออกและแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาเสียบแทนนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเป็นอย่างมาก
เหตุผลก็เพราะผู้จัดการทีมสิงโตน้ำเงินครามคนปัจจุบันพาทีมทำผลงานได้อย่างดีวันดีคืน และอันดับก็ก้าวกระโดดขึ้นมาจนถึงกลุ่มหัวตารางกันแล้ว โดยเตรียมการแข่งขันนัดล่าสุดเป็นการที่สิงโตน้ำเงินครามต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของสาลิกาดง นิวคาสเซิ่ล ในรายการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษคืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

และผลการแข่งขันจบลงตรงที่สิงโตน้ำเงินครามเจ้าบ้านเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 0 โดยผลการแข่งขันดังกล่าวมีค่าเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลให้ทีมฟุตบอลทีมนี้มีคะแนนสะสม 42 คะแนน กระโดดขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ของตารางได้สำเร็จ ตามมาด้วยทีมขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5
ส่วนทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-2020 ที่ผ่านมา อันดับตกร่วงจากจ่าฝูงมาอยู่ที่อันดับ 6 ของตารางแล้ว ในช่วงเวลานี้ ซึ่งจากผลการแข่งขันดังกล่าว โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของสิงโตน้ำเงินครามได้ออกมาให้ข่าวว่า ตนเองนั้นชื่นชอบการเล่นของลูกทีมในช่วงครึ่งแรกเป็นอย่างมาก
เพราะทีมของเราสามารถผ่านฟุตบอลบุกเข้าไปในกรอบเขตโทษของทีมฝั่งตรงข้ามได้บ่อยครั้งเป็นอย่างมาก และยังมีโอกาสได้ยิงหลายครั้งด้วยเช่นกัน แถมยังไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถสวนกลับจนเข้ามาสู่กรอบเขตโทษของทีมฝั่งเราได้เลย แม้ว่าหลายจังหวะเราอาจจะเล่นได้ยังไม่เด็ดขาดในการตัดสินใจจังหวะสุดท้ายก็ตาม

รวมทั้งยังขาดความแม่นยำอยู่บ้าง แต่สำหรับครึ่งหลังนั้นทีมฟุตบอลสิงโตน้ำเงินครามของเรากลับมาทิ้งโอกาสดีๆไปหลายครั้ง รวมทั้งเล่นฟุตบอลในสไตล์ส่งผลบอลกลับคืนหลังมาเพื่อเริ่มต้นบุกใหม่บ่อยครั้งจนเกินไปทั้งที่เราไม่ได้ถูกกดดันเลย
ติดตามติดตามข่าวฟุตบอลต่างประเทศ และข่าวพรีเมียร์ลีก ได้ที่นี่