ซามี่ เคดิร่า เป็นอีกหนึ่งนักเตะชื่อดังระดับโลกชาวเยอรมัน ซึ่งในปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางและค้าแข้งอยู่กับทีมหญิงชรา แฮร์ธ่าเบอร์ลิน โดยเขาเป็นชาวเยอรมันเชื้อสายตูนีเซียซึ่งเริ่มต้นเส้นทางการแข่งด้วยการเข้าร่วมทีมเยาวชนสตุ๊ตการ์ทตั้งแต่ปี 1995 ก่อนที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นกับทีมสตุ๊ตการ์ทปีในปี 2004 และสตุ๊ตการ์ทชุดใหญ่ในปี 2006 จากนั้น ซามี่ เคดิร่า ก็ถูกราชันชุดขาวเรอัลมาดริดดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2010 และม้าลายยูเวนตุสในปี 2015 ก่อนที่จะโบกมือลาทีมดังกล่าวและย้ายมาเล่นกับทีมหญิงชราในช่วงต้นปี 2021
ซามี่ เคดิร่า กับการตัดสินใจอำลาวงการ
ที่ทำให้นักเตะคนนี้นั้นเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกนั่นก็คือการรับใช้ชาติในฐานะทีมชาติเยอรมันซึ่งเขาเข้าร่วมทีมชาติตั้งแต่รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปีในช่วงปี 2003 ถึง 2004 และรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีในช่วงปี 2007-2009 จากนั้นก็ได้ขึ้นไปเล่นกับทีมชาติชุดใหญ่ของเยอรมันในปี 2009 ในปัจจุบันลงแข่งขันไปแล้วทุกรายการ 469 นัด
ยิงไปได้มากถึง 47 ประตู โดยเขาเคยช่วยทีมสตุ๊ตการ์ทคว้าแชมป์บุนเดสลีกาลีกเยอรมันฤดูกาล 2016-2017 ช่วยราชันชุดขาวเรอัลมาดริดคว้าแชมป์ลาลีกาสเปนฤดูกาล 2011 ถึง 2012 แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2013 ถึง 2014 และแชมป์สโมสรฟุตบอลโลกหรือฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพในปี 2014 จากนั้นก็ย้ายมาช่วยทีมม้าลายยูเวนตุสคว้าแชมป์5 สมัยด้วยกัน และที่แฟนบอลทั่วโลกต่างจดจำก็ได้ดีนั่นก็คือการที่เขาช่วยทีมชาติเยอรมันคว้าแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลโลกประจำปี 2014 นั้นเอง จึงถือได้ว่าเขาเป็นนักเตะคนสำคัญอีกคนหนึ่งของวงการฟุตบอลโลกแต่หลังจากที่เขาย้ายมาอยู่กับทีมแพ้ท่าเบอร์ลินก็ยังมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังรถควรเช่นเดียวกับหลายปีที่ผ่านมาทำให้มีโอกาสลงเล่นให้กับทีมหญิงชราฤดูกาลนี้ไปเพียง 8 นัดเท่านั้น
และเขาก็ได้ออกมากล่าวสรุปได้ว่าหลังจบการแข่งขันในวันเสาร์นี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของฤดูกาลมันก็คงถึงเวลาที่ตนจะต้องบอกมืออาชีพนักเตะในครั้งที่แล้วอย่างไรก็ตามตนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์การขัดแย้งอันยอดเยี่ยมจะช่วงเวลาที่ผ่านมาร่วมกับแฟนบอลซึ่งตนขอขอบคุณทุกท่านรวมทั้งเพื่อนร่วมทีมหัวหน้าผู้ฝึกสอนและครอบครัวกับเพื่อนให้กำลังใจเขาอยู่ และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับเว็บที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ ที่ จีคลับ168 เว็บพนันที่เหล่าสาวกเดิมพันชื่นชอบ สมัครวันนี้รับเครดิตฟรีทันที ที่สำคัญ เดิมพันขั้นต่ำเพียง 10 บาท
ติดตามติดตามข่าวฟุตบอลต่างประเทศ และข่าวพรีเมียร์ลีก ได้ที่นี่
